สคส.จากในหลวงถึงประชาชน

สคส.จากในหลวงถึงประชาชน

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553

ตลาดปูนซีเมนต์ยิ้มรับข่าวดีปี53

ผู้จัดทำ นายอับดลเล๊าะ หมัดอะหิน
เลขทะเบียน 4902100143



อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ตั้งแถวรับข่าวดีปีเสือ มีหลายตัวช่วยปลุกตลาดคึกคัก ไล่ตั้งแต่ปัจจัยบวกการเร่งเบิกใช้งบไทยเข้มแข็ง พืชผลทางการเกษตรราคาดี เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมถึงการประมูลรถไฟฟ้า แย้มปีหน้าตลาดปูนซีเมนต์อาจขยายตัวเป็นบวก 5% เอสซีจี ซีเมนต์แจงอีก6เดือนรู้ผลตั้งโรงงานในอินโดนีเซีย ด้าน"ทีพีไอ โพลีน" ชี้ปี52 ตลาดยังไม่ดี มั่นใจปี 53 มี 2 ปัจจัยช่วยหนุนตลาดฟื้น
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือซิเมนต์ไทย( เอสซีจี) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในปี 2553 ว่า เตรียมรับข่าวดี เนื่องจากจะมีหลายตัวช่วยปลุกให้ตลาดปูนซีเมนต์คึกคักขึ้น โดยสัญญาณบวกเริ่มปรากฏชัดตั้งแต่ไตรมาส 3 ที่ผ่านมาที่ปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตลาดปูนซีเมนต์พลิกเป็นบวก 7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ที่ติดลบ 10% ไตรมาส 2 ติดลบ 4% และมั่นใจว่าในไตรมาส 4 การบริโภคปูนซีเมนต์จะดีขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตามหากมองภาพรวมทั้งปี 2552 จะเห็นว่ายังติดลบอยู่ ส่วนจะติดลบเท่าไหร่นั้น
ต้องรอดูตัวเลขสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะติดลบถึง 3% ถือเป็นการติดลบที่ลดลง จากเดิมที่คาดการณ์ว่าตลาดปูนซีเมนต์ในปีนี้จะติดลบ 5-10%
สำหรับเอสซีจีมองว่าสถานการณ์โดยภาพรวมปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วมาก แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าธุรกิจปูนซีเมนต์โดยฐานของมันแล้วจะติดลบมาตลอด 3-4 ปี เมื่อพลิกเป็นบวกไตรมาส 3 ปีนี้ก็ถือว่าเป็นสัญญาณบวกครั้งแรกในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยปีนี้มีการบริโภคปูนซีเมนต์ในประเทศประมาณ 24 ล้านตัน
สอดคล้องนายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี ซิเมนต์ จำกัด ที่ยอมรับว่าตลาดปูนซีเมนต์ครึ่งหลังของปีนี้ เริ่มเป็นบวกแต่ยังไม่แรงมาก และจะโตต่อเนื่องถึงปี 2553 เพราะรัฐบาลเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นกำลังซื้อโดยการอัดฉีดงบไทยเข้มแข็งลงระบบมากขึ้น ทำให้ภาคเอกชนแข็งแรงขึ้น ตลาดปูนซีเมนต์ขยายตัวจากกลุ่มที่อยู่อาศัย ระบบสาธารณูปโภคที่เกิดจากงบไทยเข้มแข็ง นอกจากนี้ปีหน้าหากภาคเกษตรลืมตาได้โดยที่ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้น กลุ่มเกษตรกรที่ซ่อมแซมบ้านก็จะมีมากขึ้น นอกจากนี้เศรษฐกิจโลกและตลาดหุ้นก็เริ่มดีขึ้นแล้ว
"คาดการณ์ว่าทั้งปี 2553 ตลาดปูนซีเมนต์น่าจะเสมอตัวหรือจะขยายตัวเป็นบวกก็น่าจะไม่เกิน 5% โดยบริโภคปูนซีเมนต์คาดการณ์เบื้องต้นว่ายังไม่ถึง 25 ล้านตัน แต่จะมากกว่า 24 ล้านตัน/ปี"
สำหรับการแข่งขันในตลาดอาเซียน ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากเขตการค้าเสรี(อาฟต้า) เนื่องจากมีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถช่วยตัวเองได้แล้ว ต้นทุนสามารถแข่งขันกับผู้เล่นระดับโลกได้ เพราะมีการพัฒนาและใช้เทคโนโลยีของเราเอง
ส่วนในแง่ราคาปูนซีเมนต์ มองว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นเรื่องของกลไกตลาด โดยที่ผู้บริโภคมีโอกาสเลือกซื้อได้มากขึ้น แม้ว่าผู้ผลิตอยากจะปรับราคาก็ปรับไม่ได้ เพราะปรับราคาแล้วคนไม่ซื้อ ก็จะเป็นเรื่องของซัพพลายดีมานด์มากกว่า และมองว่าอีกหลายที่ราคาปูนซีเมนต์จะปรับได้เนื่องจากในประเทศปริมาณปูนซีเมนต์ยังมีกำลังการผลิตล้นตลาดอยู่ โดยมีกำลังผลิตรวมในประเทศประมาณ 50ล้านตัน แต่การบริโภคมีเพียง24 ล้านตัน/ปี
นอกจากนี้นายปราโมทย์ ยังกล่าวถึงในแง่การส่งออกโดยเอสซีจี ซิเมนต์ มองว่าการส่งออก 7-8 ล้านตัน/ปี ถือว่าเป็นปริมาณที่มากแล้ว เนื่องจากการส่งออกจำนวนมากจะแบกภาระต้นทุนค่าขนส่งสูงมาก แต่เอสซีจี ซิเมนต์จะปรับตัวโดยการหันไปเพิ่มมูลค่าของซีเมนต์มากขึ้น เช่นคงทนต่อการใช้งานระยะยาว และมองว่าแนวโน้มผู้บริโภคจะเริ่มหันมาสนใจเรื่องแบรนด์มากขึ้น โดยจะดูว่าองค์กรนั้นๆดูแลสังคมดีหรือไม่ ผู้ซื้อจะยอมจ่ายเพราะแบรนด์นั้นๆช่วยดูแลสังคมให้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อการส่งออกมีภาระต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น เอสซีจี ซิเมนต์ จึงต้องมองโอกาสการลงทุนในต่างประเทศโดยเฉพาะในประเทศในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ประสบผลสำเร็จแล้วในการลงทุนที่กัมพูชา และมีแผนที่จะขยายเฟส 2 ในอนาคตอีกเท่าตัว
ขณะนี้ขอดูความชัดเจนของเศรษฐกิจโลกก่อน โดยที่กัมพูชายังเป็นตลาดที่น่าสนใจเพราะเมื่อ 2-3 ปีที่แล้วเศรษฐกิจกัมพูชาโต 20% เนื่องจากฐานของตลาดมีขนาดเล็ก มีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศ 2-3 ล้านตัน/ปี ขณะที่มีกำลังการผลิตในประเทศเพียง900,000 ตัน/ปี จากโรงงานผลิตแห่งเดียวโดยกลุ่มเอสซีจี ซิเมนต์ ที่ไปลงทุนตั้งโรงงานก่อนหน้านี้ ที่เหลือยังต้องนำเข้าจากประเทศไทย ส่วนการลงทุนที่อินโดนีเซียจะมีความชัดเจนขึ้นในอีก 6 เดือนนับจากนี้ไป
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มตลาดปูนซีเมนต์ปี 2553 ว่าจะมี 2 ปัจจัยที่เป็นตัวช่วยหลักในการกระตุ้นตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศคือ ราคาพืชผลทางการเกษตรดีขึ้นโดยเฉพาะราคาข้าวที่ราคาสูงขึ้น พอหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวทำให้มีการใช้เงินในการซ่อมแซมบ้าน หรือปลูกบ้านใหม่ และปัจจัยต่อมาเกิดจากกรณีที่มีการประมูลรถไฟฟ้า 2 สายเกิดขึ้น โดยเฉพาะสายสีม่วง จะทำให้มีการใช้ปูนเพื่องานก่อสร้างมากขึ้น ทำให้ตลาดปูนซีเมนต์ปี 2553 ดีกว่า2 ปีที่ผ่านมาโดยจะมีการบริโภคประมาณ 25 ล้านตัน/ปี

นายปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล
"ในแง่ราคาปูนซีเมนต์ มองว่าต่อจากนี้ไปจะเป็นเรื่องของกลไกตลาดมากขึ้น ที่ผู้ผลิตมีโอกาสเลือกซื้อได้มากขึ้น แม้ว่าผู้ประกอบการอยากจะปรับราคาก็ปรับไม่ได้ ปรับราคาแล้วคนไม่ซื้อ ก็จะเป็นเรื่องของซัพพลายดีมานด์มากกว่า"

คำถาม
1.SCG ประสบความสำเร็จในการลงทุนในอาเซียนคือประเทศอะไร
2.ปี 2553 ตลาดSCG จะเสมอตัวหรือขยายตัวเป็นบวก ไม่เกินเท่าไร
3.การส่งออำจำนวนมากมีภาระด้านใดมากที่สุด

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,491 27-30 ธันวาคม พ.ศ. 2552

4 ความคิดเห็น:

  1. คำตอบ
    1.ประเทศไทย
    2.จะขยายตัวเป็นบวกก็น่าจะไม่เกิน 5% โดยบริโภคปูนซีเมนต์คาดการณ์เบื้องต้นว่ายังไม่ถึง 25 ล้านตัน แต่จะมากกว่า 24 ล้านตัน/ปี"
    3.จะแบกภาระต้นทุนค่าขนส่งสูงมาก
    น.ส.สุกัญญา ธรรมประเสริฐ 4902100168

    ตอบลบ
  2. คำตอบ
    1.ประเทศไทย
    2.จะขยายตัวเป็นบวกก็น่าจะไม่เกิน 5% โดยบริโภคปูนซีเมนต์คาดการณ์เบื้องต้นว่ายังไม่ถึง 25 ล้านตัน แต่จะมากกว่า 24 ล้านตัน/ปี"
    3.จะแบกภาระต้นทุนค่าขนส่งสูงมาก
    น.ส.วินัษริน สีทร 4902100140

    ตอบลบ
  3. คำตอบ
    1.ประเทศไทย
    2.จะขยายตัวเป็นบวกก็น่าจะไม่เกิน 5% โดยบริโภคปูนซีเมนต์คาดการณ์เบื้องต้นว่ายังไม่ถึง 25 ล้านตัน แต่จะมากกว่า 24 ล้านตัน/ปี"
    3.จะแบกภาระต้นทุนค่าขนส่งสูงมาก
    น.ส.สุดาวัลย์ จันทรักษ์ 4902100146

    ตอบลบ
  4. 1.ประเทศไทย
    2.จะขยายตัวเป็นบวกก็น่าจะไม่เกิน 5% โดยบริโภคปูนซีเมนต์คาดการณ์เบื้องต้นว่ายังไม่ถึง 25 ล้านตัน แต่จะมากกว่า 24 ล้านตัน/ปี"
    3.จะแบกภาระต้นทุนค่าขนส่งสูงมาก
    น.ส เกศินี คงประพันธ์ 4902100145

    ตอบลบ